- จุกธรรมชาติ (Natural Cork)
 วัสดุ: ทำจากเปลือกของต้นโอ๊คคอร์ก (Quercus suber) ส่วนใหญ่มาจากโปรตุเกส สเปน และแอฟริกาเหนือ
 
 คุณสมบัติสำคัญ:
 ✔ การแลกเปลี่ยนออกซิเจน: ควบคุมการซึมผ่านของออกซิเจนในระดับเล็กน้อย (0.001-0.1 มก. O₂/วัน) ซึ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนารสชาติไวน์
 ✔ ศักยภาพการบ่มอายุ: เหมาะสำหรับไวน์ที่ต้องการ บ่มนานกว่า 5 ปี (เช่น บอร์โด บาร์โล ไวน์ポート vintage)
 ✔ ความยั่งยืน: ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และช่วยสนับสนุนระบบนิเวศป่าโอ๊คคอร์ก (การผลิตคาร์บอนติดลบ)
 
 ข้อจำกัด:
 
 จุกเสีย (TCA): มีความเสี่ยง ~1-3% ในการเกิดสาร 2,4,6-trichloroanisole ที่ทำให้เกิดกลิ่นอับ
 ความไม่สม่ำเสมอ: ความพรุนตามธรรมชาติอาจทำให้ไวน์แต่ละขวดแตกต่างกัน
 การใช้งานในอุตสาหกรรม: นิยมใช้กับ ไวน์ระดับพรีเมียมและไวน์สำหรับบ่มอายุ
 
 
 2. จุกเทคนิค (Technical Cork)
 วัสดุ: ทำจากเกร็ดคอร์กอัดแน่นด้วยกาวปลอดสารพิษ มักมีแผ่นคอร์กธรรมชาติที่ส่วนสัมผัสไวน์
 
 คุณสมบัติสำคัญ:
 ✔ ความสม่ำเสมอ: การแลกเปลี่ยนออกซิเจนอยู่ในระดับปานกลาง (~0.05 มก. O₂/วัน) ดีกว่าจุกธรรมชาติ
 ✔ ประหยัดต้นทุน: ราคาถูกกว่าจุกธรรมชาติ ~30-50%
 ✔ ลดความเสี่ยง TCA: ผ่านกระบวนการลดการปนเปื้อน (ความเสี่ยง <0.5%)
 
 ข้อจำกัด:
 
 ศักยภาพการบ่มอายุจำกัด (เหมาะสำหรับ 1-5 ปี)
 ถูกมองว่ามีความพิเศษน้อยกว่าจุกธรรมชาติ
 การใช้งานในอุตสาหกรรม: นิยมใช้กับ ไวน์ระดับกลาง (ราคาขายปลีกประมาณ $15-$50)
 
 
 3. จุกสังเคราะห์ (Synthetic Cork)
 วัสดุ: ทำจาก PET หรืออีลาสโตเมอร์ ที่ออกแบบมาให้คล้ายจุกธรรมชาติ
 
 คุณสมบัติสำคัญ:
 ✔ ปลอด TCA: ไม่มีความเสี่ยงจุกเสีย
 ✔ ความสม่ำเสมอ: ปิดผนึกได้แน่น (เกือบไม่มีออกซิเจนซึมผ่าน)
 ✔ ต้นทุน: ราคาผลิตต่ำที่สุด
 
 ข้อจำกัด:
 
 ไม่มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจน: ไม่เหมาะสำหรับการบ่มอายุ อาจทำให้เกิดกลิ่นกำมะถัน
 ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: ทำจากปิโตรเลียม ย่อยสลายยาก
 การรับรู้ของผู้บริโภค: มักเชื่อมโยงกับไวน์คุณภาพต่ำ
 การใช้งานในอุตสาหกรรม: นิยมใช้กับ ไวน์ปริมาณมาก ราคาประหยัด ที่ควรดื่มทันที
 
 
 ทางเลือกใหม่ในอุตสาหกรรม
 จุกสกรู (Stelvin): ควบคุมออกซิเจนได้ดี เป็นที่นิยมในออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ เหมาะกับไวน์สดใหม่ (เช่น โซวิญองบลง)
 จุกแก้ว (Vino-Lok): ปิดสนิท นำกลับมาใช้ได้ และดูหรูหรา
 จุกไฮบริด: ผสมระหว่างคอร์กกับวัสดุสังเคราะห์เพื่อสมดุล

คำแนะนำสำหรับมืออาชีพ
ไวน์คุณภาพสูง: ใช้จุกธรรมชาติเพื่อการบ่มอายุที่ดีที่สุด
ไวน์ระดับกลาง: ใช้จุกเทคนิคเพื่อความสมดุลของต้นทุนและประสิทธิภาพ
ไวน์ปริมาณมาก: ใช้จุกสังเคราะห์หรือจุกสกรูเพื่อความสม่ำเสมอ